เนื่องจากได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆจึงต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ การถามทาง หรือสอบถามข้อมูลต่างๆล้วนแต่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากการพูดคุยกับอาจารย์ในห้องเรียนและเพื่อนๆโครงการเดียวกันแล้ว ก็ยังได้พูดคุยกับคนญี่ปุ่นคนอื่นๆอีกด้วยคะ ทั้งการไป Home stay ,Home visit หรือการไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ ก็ทำให้มีโอกาสได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นมากขึ้นคะ อีกอย่างการไปญี่ปุ่นครั้งนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่าภาษาญี่ปุ่นที่เราเรียนในห้องเรียนกับที่ใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆนั้นแตกต่างกันคะ เพราะที่เราเรียนในห้องเรียนส่วนใหญ่นั้นเป็นภาษาสุภาพแต่ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้นไม่ค่อยมีใครใช้ภาษาสุภาพเลยคะทุกคนใช้รูปธรรมดาและเหมือนทุกคนจะดูแปลกใจมากด้วยถ้าเราพูดภาษาสุภาพ ทำให้ต้องปรับตัวและเรียนรู้เยอะมากเลยคะ
Home Visit
เพื่อนๆจากมหาวิทยาลัยกักุชูอิน
สัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่น
2.ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆที่ไม่เคยรู้มาก่อน
เพราะคำศัพท์ที่เรียนในห้องเรียนนั้นมีน้อยมาก ซึ่งในชีวิตจริงนั้นยังมีคำศัพท์แปลกใหม่อีกหลายอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อนคะ โครงการนี้ทำให้เราได้เรียนรู้เพิ่มเติมภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันมากขึ้น นอกจากนั้นก็ยังได้เรียนภาษาญี่ปุ่นท้องถิ่นของแถบคันไซด้วยคะ น่าสนใจและสนุกมากๆเลย
3.ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและวิธีคิดของคนญี่ปุ่น
เพราะในโครงการนี้จะมีการเรียนการสอนเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความคิดของคนญี่ปุ่นด้วยคะ เช่น การเรียนการสวมชุดกิโมโน การชงชา การไปดูละครโนและละครตลกเคียวเง็น การไปดูการแข่งขันซูโม่ การไปเที่ยวชมวัด ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมและและวิธีคิดของคนญี่ปุ่นทั้งสิ้น นอกจากนั้นการที่เราได้ไปพบเห็นการจัดระเบียบต่างๆของประเทศนี้ทำให้เราได้รู้ว่าคนญี่ปุ่นมีการวางแผนในเรื่องต่างๆดีมากและใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆต่อคนในประเทศของเขามากคะ
กิจกรรมชงชา
กิโมโน
ชมละครตลกเคียวเง็นและโน
ดูการแข่งขันซูโม่
เที่ยวชมวัดที่เกียวโต
เพ้นท์ผ้าแบบญี่ปุ่น
4.ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับเพื่อนที่มาจากหลากหลายประเทศ
โครงการนี้ทำให้เรารู้ความแตกต่างของคนแต่ละประเทศเกี่ยวกับมุมมองความคิดในเรื่องต่างๆที่แตกต่างกัน ทำให้เราต้องรู้จักเรียนรู้และปรับตัวต้องเข้าใจวัฒนธรรมของเพื่อนแต่ละประเทศด้วยคะ อย่างเช่นเพื่อนของเรานับถือศาสนาอิสลาม นอกจากไม่กินเนื้อหมูแล้ว เพื่อนยังต้องละหมาดก่อนกินข้าวเย็นด้วยคะ พวกเราก็ต้องเข้าใจและรอเพื่อนเพื่อจะได้ไปกินข้าวพร้อมกัน
5.รู้จักวางแผนและฝึกการทำงานเป็นทีม
เนื่องจากโครงการนี้พวกเราจะต้องแบ่งกลุ่มเพื่อร่วมกันทำงานเป็นทีมหลายต่อหลายครั้ง ทั้งในชั้นเรียนและการออกไปทำกิจกรรมร่วมกันข้างนอก ทำให้เราต้องรู้จักการทำงานเป็นทีมและเรียนรู้การวางแผนการทำงานร่วมกัน รู้จักการแบ่งงานให้สมาชิกในกลุ่มตามที่เพื่อนแต่ละคนถนัด จึงจะทำให้การทำงานกลุ่มของเรามีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการทำงานมาก
ปรึกษากันเรื่องแผนที่
นัดประชุมการทำงานเตรียมนำเสนอ
6.ทำให้มีแรงกระตุ้นในการที่จะพัฒนาภาษาญี่ปุ่นให้ดีขึ้นกว่าเดิม
เนื่องจากเพื่อนๆทุกคนในโครงการเก่งภาษาญี่ปุ่นมากคะ การที่เราจะพูดคุยกับเพื่อนให้รู้เรื่องและเข้าใจมากขึ้นเราก็จะต้องพัฒนาตัวเองคะ ต้องหมั่นทบทวนคำศัพท์อยู่สม่ำเสมอ เพื่อนๆในโครงนี้เป็นแรงกระตุ้นให้เราอยากจะพัฒนาตัวเองเพราะต้องการจะคุยกับเพื่อนๆให้เข้าใจมากขึ้นคะ และเพื่อนทุกๆคนที่โครงการนี้ก็ดีมากคะคอยช่วยเหลือเราเสมอเวลาที่เราไม่เข้าใจก็พยายามอธิบายให้ฟังตลอด ทำให้รู้สึกประทับใจเพื่อนๆมากคะ
7.สามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นร่วมกับคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เช่น การพิมพ์ภาษาญี่ปุ่น การหาคำศัพท์ การค้นหาคันจิที่เราต้องการ การส่งอีเมล์ การใช้เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการฝึกฝนภาษาญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งที่นี่มีการเรียนการสอนให้เราได้เรียนรู้ ซึ่งหลายๆอย่างก็เป็นความรู้ใหม่ๆที่ไม่เคยได้รู้มาก่อนเลยคะและปัจจุบันก็สามารถนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ในการทำงานและฝึกฝนภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยคะ
ห้องเรียนคอมพิวเตอร์
8.ฝึกให้เราเป็นคนช่างสังเกต
เพื่อเก็บรายละเอียดในความแตกต่างระหว่างคนญี่ปุ่นและคนไทย และเก็บความรู้เกี่ยวกับสิ่งแปลกใหม่ที่เราได้พบเจอในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เราเป็นคนช่างสังเกตในเรื่องของการวางแผนและวิธีคิดของคนญี่ปุ่น และวัฒนธรรมต่างๆที่น่าสนใจ ซึ่งการฝึกสังเกตสิ่งต่างๆนั้นก็จะทำให้เราได้รับความรู้เพิ่มมากยิ่งขึ้น