こんにちわ สวัสดีผู้เยี่ยมชมบล๊อกทุกคนคะ

こんにちわ สวัสดีผู้เยี่ยมชมบล๊อกทุกคนคะ
บล๊อกนี้เขียนขึ้นเพื่อเล่าเรื่องประสบการณ์ของการเดินทางไปเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างนักศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 6สัปดาห์ ซึ่งเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเราในการไปใช้ชีวิตต่างแดนและอยากจะนำรายละเอียดมาเล่าสู่กันฟังคะ หวังว่าข้อมูลในบล๊อกจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ

ありがとうございます。


วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กิจกรรมในสัปดาห์ที่สาม

วันที่ 26 มกราคม 2554         
          คาบเช้าเวลา 09.00 – 11.50 น.เป็นคาบเรียน Discussion 4 (ディスカッチョン) ครั้งนี้เรียนเกี่ยวกับการศึกษาของคนญี่ปุ่นคะ และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างเพื่อนแต่ละประเทศว่ามีระบบการศึกษาแตกต่างกันอย่างไร หรือระบบการสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย ฯลฯ หลังจากนั้นก็พักรับประทานอาหารกลางวันคะ
          ช่วงบ่ายเวลา 13.20 – 15.10 น.เป็นชั้นเรียน Speech (スピーチ) 3 ซึ่งวันนี้เป็นวันที่พวกเรา Presentation เกี่ยวกับประเทศของเรา ซึ่งเราได้รับหัวข้อ “แหล่งซื้อของฝากในกรุงเทพฯ” นอกจากจะตื่นเต้นจากการออกไปพูดหน้าห้องเรียนแล้ว ที่น่าตื่นเต้นกว่าคืออาจารย์เอาวิดีโอมาอัดด้วยคะ มันยิ่งทำให้เราตื่นเต้นและประหม่ามากขึ้นไปอีก แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีคะ



นำเสนอเรื่อง "แหล่งซื้อของฝากในกรุงเทพฯ"


บรรยากาศในห้องก่อนการนำเสนอ

          หลังจาก Speech (スピーチ) 3 เสร็จแล้วพวกเราทุกคนต่างก็เตรียมตัวเพื่อที่จะไป Home Visit กันคะ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีเวลานัดที่แตกต่างกันคะ ส่วนของเราได้ไปกับ คริสติน (เพื่อนชาวอินโดนีเซีย)คะ เจ้าของบ้านมารับที่สถานีรถไฟปลายทางแล้วก็พาไปเที่ยว ก่อนที่จะพาไปกินอาหารเย็นด้วยกันคะ ซึ่งตอนขากลับเจ้าของบ้าน Home Visit ก็ได้ขับรถมาส่งด้วยคะ เนื่องจากว่ามันดึกมากแล้วกว่าจะมาถึงที่ศูนย์ฯก็ประมาณ 3 ทุ่มคะ พอกลับถึงบ้านแล้วเราก็ต้องรีบมาเก็บของ แพ็คกระเป๋า เพราะต้องเดินทางไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยที่โตเกียวในวันพรุ่งนี้คะ วันนี้จึงถือเป็นวันที่ยุ่งมากๆของเราเลยคะ






Home Visit

วันที่ 27 มกราคม 2554          
           คาบเช้าของวันนี้ เวลา 09.00 – 11.30 น. เป็นชั้นเรียนของ Interview 3 (インタビュー) วันนี้อาจารย์สอนเกี่ยวกับลำดับในการพูด ตั้งแต่เริ่มต้นการสัมภาษณ์ว่าก่อนจะเริ่มถามคำถามนั้น จะต้องพูดอะไรก่อน เช่น แนะนำตนเองและสมาชิกกลุ่ม แนะนำจุดประสงค์ของการสัมภาษณ์และเหตุผลที่เลือกหัวข้อสัมภาษณ์นี้ ก่อนที่จะเริ่มการสัมภาษณ์ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่เราจะสัมภาษณ์นั้นจะมี 2 กลุ่ม คือ คนญี่ปุ่นที่อายุ 50 – 60 ปี และนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยอาจารย์ได้สั่งการบ้านให้พวกเราเขียนสคริปในการพูดทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นแนะนำตัว บอกเหตุผลในการเลือกหัวข้อนี้ และเริ่มถามคำถาม จนกระทั่งกล่าวคำขอบคุณหลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จ แล้วพิมพ์ส่ง e-mail ให้อาจารย์ภายในวันพรุ่งนี้


บรรยากาศของชั้นเรียน Interview 3

            หลังจากนั้นเราก็ต้องรีบไปเก็บของเพื่อจะไปโตเกียว และนัดกับ ชินดี (เพื่อนออสเตรเลีย) ที่ต้องไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยเดียวกันไว้ตอน 11.00 น.ที่หน้าประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะเดินทางไปขึ้นรถไฟหัวกระสุนหรือชินคันเซ็นไปโตเกียว ส่วนอาหารกลางวันนั้นพวกเราสองคนแวะซื้อเบ็นโตะ(อาหารกล่อง)ที่สถานีรถไฟก่อนจะขึ้นรถไฟชินคันเซ็นเพื่อเดินทางไปโตเกียวคะ






ชินคันเซ็น


เบ็นโตะ 

            พวกเราเดินทางไปถึงโตเกียวด้วยเวลาประมาณ 16.30 น. และเดินทางต่อไปยังสถานีเมจิโระ (目白) เพราะอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาที่พวกเราจะไป Home Stay นั้นรออยู่ที่สถานีนั้นคะ พวกเราเดินทางไปถึงสถานีเมจิโระประมาณ 17.10 น. อาจารย์มุราโนะ (村野先生) และเพื่อนอีกสองคนคือ ยูกะ และ ซูซูกิ รออยู่ที่ประตูทางออกของสถานีรถไฟคะ พอเดินไปเจออาจารย์และเพื่อนๆก็ดูพวกเขาดีใจมากเลยคะที่เห็นพวกเรา หลังจากนั้นอาจารย์ก็แนะนำเพื่อนให้รู้จัก เราได้ไปพัก Home Stay กับ ซูซูกิคะ พวกเราแยกย้ายกันกลับบ้าน แม่ของซูซูกิมารับก่อนเข้าบ้านพวกเราก็ไปแวะซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อทำอาหารเย็น หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้วก็อาบน้ำและเข้านอนคะ


ครอบครัวซูซูกิ


วันที่ 28 มกราคม 2554          
          วันนี้นัดเจอกันกับเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยกักกุชูอิน (学習院大学) เวลา 10.30 น. หลังจากที่ไปถึงแล้วก็มีเพื่อนนักศึกษาอีกหลายคนที่เข้ามาช่วยนำเที่ยวและแนะนำเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย พอถึงเวลา 11.00 น.ก็ถึงเวลานัดที่เราต้องไปที่ห้องประชุมเพื่อนำเสนอเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยของเราเอง เพื่อนๆที่เข้ามาฟังในห้องประชุมก็มีประมาณ 10 – 15 คนได้คะ โดยเราได้ทำ Power Point ในการนำเสนอมาจากที่ประเทศไทยแล้ว ก็สามารถนำมา Present ได้เลยคะ ขณะที่นำเสนออาจารย์มุราโนะที่ดูแลพวกเราก็สั่งพิซซ่ามาเลี้ยง พร้อมขนม และผลไม้อีกเยอะเลยคะ ทำให้บรรยากาศในการนำเสนอดูไม่เคร่งเครียดมากคะ เหมือนกับว่ามานั่งพูดคุยกันมากกว่าก็ช่วยทำให้เราคลายความตื่นเต้นลงไปได้เยอะเลยคะ


เพื่อนๆพาเที่ยวรอบๆมหาวิทยาลัยกักกุชูอิน


นำเสนอมหาวิทยาลัยของเรา


มอบของฝากจากไทยให้อาจารย์มุราโนะ

            พอถึงเวลา 13.00 น.พวกเราก็ได้ไปเยี่ยมโรงเรียนประถมศึกษา ไปดูการเรียนการสอนของนักเรียนประถมฯคะ เด็กที่นี่มีความกล้าแสดงออกมากคะ สามารถออกมาพูดหน้าห้องหรือแสดงความคิดเห็นอย่างไม่เขินอาย น่าประทับใจมากเลยคะ





เยี่ยมโรงเรียนประถมศึกษา

            พอถึงเวลา 14.30 น.เพื่อนๆก็พาไปเที่ยวที่สวนบริเวณใกล้ๆคะ ชื่อว่า “Rikugien Gardens” เป็นสวนที่มีความสวยงามมากคะมีการจัดตกแต่งต้นไม้อย่างสวยงาม มีดอกไม้สวยๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ภายในสวนก็มีอีกาเยอะมากคะ ทำให้รู้สึกน่ากลัวอยู่เหมือนกัน


“Rikugien Gardens”

            หลังจากนั้นพวกเราก็ไปแวะที่ร้านกาแฟคะ นั่งดื่มกาแฟและทานขนมปัง คุยกันอยู่สักครู่ใหญ่ๆ จากนั้นเพื่อนๆก็พามาเลี้ยงอาหารค่ำที่ร้าน “watami” สั่งอาหารมาเยอะมากเลยคะ บางอย่างก็อร่อยรสชาติคล้ายอาหารไทย แต่บางอย่างก็ขอชิมอย่างเดียวดีกว่าคะ หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านคะ เราก็ไปพักที่บ้านของซูซูกิอีกหนึ่งคืนคะ ก่อนจะขึ้นนอนก็ได้ไปนั่งคุยกับพี่สาวของซูซูกิที่เป็นอาจารย์และคุณแม่ของซูซูกิคะ ทุกคนน่ารักและใจดีมาก โดยเฉพาะคุณแม่ทำกับข้าวอร่อยมากคะ


ทานมื้อเย็นที่ร้าน “watami”


วันที่ 29 มกราคม 2554          
           วันนี้เป็นวันที่ต้องเดินทางกลับโอซาก้าคะแต่ตามกำหนดการนั้นพวกเราออกจากโตเกียวเวลา 17.00 น.คะเลยทำให้เรามีเวลาว่างในช่วงเช้า สามารถไปเที่ยวได้อิสระคะ หลังจากที่เก็บของและลาครอบครัวของซูซูกิแล้ว เพื่อนๆจึงพาเราและชินดีไปเที่ยวที่ “Edo-Tokyo Museum”ก่อนในช่วงเช้า ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากคะ มีการนำเสนอและให้ความรู้เราแบบน่าติดตาม ไม่ทำให้การมาพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องน่าเบื่อเลยคะ หลังจากนั้นพวกเราก็ไปทานอาหารกลางวันร่วมกันคะ และไปเที่ยวที่อากิฮาบาระต่อคะ เดินเที่ยวจนใกล้ถึงเวลา 17.00 น. เพื่อนๆจึงมาส่งเราขึ้นรถไฟฟ้าและลากันที่สถานีรถไฟฟ้าคะ ส่วนเราและชินดีก็เดินทางต่อเพื่อไปขึ้นรถไฟชินคันเซ็นกลับโอซาก้าคะ เราเดินทางมาถึงศูนย์ประมาณ 21.25 น.คะ เป็นการเดินทางที่ต้องทำเวลาเป็นอย่างมากคะ เพราะรถ Shuttle Bus ที่จะรับเราจากสถานีรถไฟเพื่อไปยังศูนย์ The Japan Foundation นั้นเป็นรถเที่ยวสุดท้าย ถ้าพลาดรถเที่ยวนี้เราก็จะไม่มีรถกลับคะ หลังจากกลับมาถึงห้องพักแล้ว เราก็อาบน้ำนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางคะ




Edo-Tokyo Museum



อากิฮาบาระ


วันที่ 30 มกราคม 2554
           วันนี้เป็นวันอาทิตย์คะ อันที่จริงแล้วต้องเป็นวันหยุดคะ แต่เราก็ไม่ได้หยุดอีกเช่นเคย เพราะต้องมาตามเก็บงานที่เป็นการบ้านในชั้นเรียน Speech (スピーチ) 4 ที่เพื่อนๆเรียนไปแล้วในช่วงที่เราไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยที่โตเกียว การบ้านในครั้งนี้ก็คือ เขียนบทความเกี่ยวกับ “ความเป็นอยู่ในมหาวิทยาลัยของฉัน (私の大学の生活)”และส่ง e-mail ให้อาจารย์ก่อน 16.00 น.ของวันนี้เพื่อให้อาจารย์ตรวจความถูกต้องให้เรียบร้อยก่อนจะนำไปพูดในชั้นเรียนในครั้งต่อไป วันนี้เลยไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลยคะ เพราะคิดและเขียนบทความทั้งวัน หลังจากทำงานเสร็จแล้วก็มีเวลาเก็บของออกจากกระป๋า และซักผ้าคะ


วันที่ 31 มกราคม 2554       
          วันนี้ก็เข้าสู่วันเรียนตามปกติคะ ในช่วงเช้าเวลา 09.00 – 11.50 น.เป็นคาบเรียน Discussion 5 (ディスカッチョン) วันนี้ในชั้นเรียนพวกเราเรียนและพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว และการแต่งงานของคนญี่ปุ่นคะ แนวคิดของคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับแต่งงาน หน้าที่ความรับผิดชอบของภรรยาหลังจากแต่งงานแล้ว ฯลฯ พร้อมกับแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการแต่งงานของประเทศต่างๆจากเพื่อนๆในห้อง
 จากนั้นเราก็พักรับประทานอาหารกลางวัน และในช่วงบ่ายเวลา 13.20 – 15.10 น.จะเป็นชั้นเรียน Speech (スピーチ) 5 ซึ่งอาจารย์ก็จะนัดให้พวกเราเข้าพบตัวต่อตัวเพื่อบอกเกี่ยวกับการแก้ไขบทความที่เราส่งไปเมื่อวานให้แก้ไขให้ถูกต้อง และฝึกอ่านให้อาจารย์ฟังก่อนวันที่พูดจริง หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับมาแก้ไขบทความให้ถูกต้องและส่ง e-mail ให้อาจารย์อีกครั้งหนึ่ง
            หลังจากนั้นเวลา 15.20 – 16.10 น.เป็นการประชุมเพื่อบอกข่าวสารคะ อาจารย์และเจ้าหน้าที่จะชี้แจงเกี่ยวกับกำหนดการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายทั้งคนญี่ปุ่นที่อายุ 50 – 60 ปี (3 คน)และนักศึกษามหาวิทยาลัย(19 คน)ที่จะเดินทางมาเยี่ยมเราในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่จะมาถึง และแจกเงินเบี้ยเลี้ยงของเดือนหน้าให้กับพวกเราทุกคนซึ่งแต่ละคนก็จะได้เบี้ยเลี้ยงไม่เท่ากันคะ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำคะ อย่างเราได้ไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยก่อน เงินเบื้ยเลี้ยงเดือนแรกก็จะเยอะกว่าเพื่อนๆหน่อย แต่พอเดือนนี้ก็จะได้น้อยกว่าเพื่อนคะเพราะเพื่อนๆไปเยื่ยมมหาวิทยาลัยกันเดือนนี้คะ



วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554          
          ช่วงเช้าเวลา 09.00 – 10.50 น.เป็นคาบเรียน Discussion 5 (ディスカッチョン) ชั้นเรียนนี้เรียนเกี่ยวกับการทำงานของคนญี่ปุ่น ระบบความคิดในการทำงานหรือการเลือกสถานที่เข้าทำงาน และนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างถึงความแตกต่างในแต่ละประเทศของเพื่อนในห้อง ว่าแตกต่างกันอย่างไร หลังจากนั้นเวลา 11.00 – 11.50 น.เป็นชั้นเรียนที่เตรียมตัวเกี่ยวกับการต้อนรับการมาเยี่ยมของนักศึกษามหาวิทยาลัย โดยอาจารย์จะชี้แจงเกี่ยวกับกำหนดการต่างๆและมีการสอนพับกล่องแบบญี่ปุ่นด้วยคะ เพื่อเตรียมไว้สำหรับใช้ในเทศกาลปาถั่วไล่ยักษ์ ที่ทางศูนย์จะจัดปาร์ตี้ให้เราได้ทำกิจกรรมนี้ร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มายี่ยมเรา หลังจากนั้นพวกเราก็พักรับประทานอาหารกลางวัน


พับกล่องแบบญี่ปุ่น

           ในช่วงบ่ายเวลา 13.20 – 15.10 น.เป็นชั้นเรียน Interview 4 (インタビュー) ในครั้งนี้เป็นการสัมภาษณ์จริงแล้วคะ กลุ่มเป้าหมายคือคนญี่ปุ่นที่อายุ 50 – 60 ปีคะ พวกเราสมาชิกในกลุ่มก็จะแบ่งคำถามในส่วนที่เราต้องรับผิดชอบกัน เพื่อสัมภาษณ์คนญี่ปุ่น และบันทึกเสียงระหว่างการสัมภาษณ์ไว้ด้วย เพราะต้องนำมาฟังเพื่อแกะเทปและสรุปผลการสัมภาษณ์อีกครั้งหนึ่ง




ภาพบรรยากาศการสัมภาษณ์

            หลังจากนั้นเวลา 15.20 – 16.10 น. มีการนัดไปที่ห้องประชุมเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งก็คือทางศูนย์ The Japan Foundation จะแจกหนังสือให้กับเราโดยจะมีงบประมาณให้เรา 4,000 เยนแต่หากเราซึ้อเกินในส่วนที่เกินเราต้องจ่ายเอง โดยจะมีหนังสือให้เราเลือกมากมายเลยคะ แบ่งออกเป็นหมวดต่างๆ ทั้งคันจิ ไวยากรณ์ การฟัง พจนานุกรม และหนังสือเกี่ยวกับการสอบวัดระดับ ฯลฯ เพื่อให้เราไปเลือกดูตามที่ชอบ หลังจากนั้นก็สั่งหนังสือโดยจะมีรายการหนังสือมาให้เราเลือกหนังสือที่เราต้องการ และจะมีใบมาแจ้งให้เราไปรับหนังสือที่ Book Shop อีกครั้งหากมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินในใบรับหนังสือก็จะแจ้งมาให้ทราบด้วยคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น